หลุด! ภาพดีไซน์ตัวละครใหม่ Genshin Impact แพตช์ 3.8

หลุด! ภาพดีไซน์ตัวละครใหม่ Genshin Impact แพตช์ 3.8

เกมส์อัพเดท

Genshin Impact มีหลุดภาพตัวละครใหม่จากเมือง Inazuma มาอีกแล้ว จากที่ครั้งก่อนมีหลุดภาพตัวละครใหม่ชื่อว่า Kirara ว่าเป็นตัวละครใหม่ธาตุดินแพตช์ 3.7 แต่พอข้อมูลจริงออกมา กลับกลายเป็นว่าชื่อจริงใช้ชื่อ Momoka แถมธาตุที่ใช้ก็เป็นธาตุไม้แทน ไม่ใช่ธาตุดิน ก็ถือว่าข้อมูลเปลี่ยนไปพอสมควร ล่าสุดมีหลุดมาอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ทราบชื่อของเธอ แต่คาดว่าจะเป็นตัวละครใหม่เมือง Inazuma เหมือนกัน แต่เป็นธาตุไฟฟ้า

ตัวละครใหม่มาในชุดสไตล์ญี่ปุ่น และมีลักษณะเหมือนเป็นนักดนตรี เธอมี ชามิเซ็น เป็นเครื่องดนตรีประจำตัว และชอบเดินทางไปแสดงดนตรียังที่ต่าง ๆ ใน Inazuma ซึ่งก็เท่ากับว่าตอนนี้แทบทุกเมืองก็จะมีตัวละครนักดนตรีอย่างน้อยหนึ่งตัว อย่าง mondstadt ก็มี Venti ส่วน Liyue ก็มี Xinyan และ Inazuma ก็จะมีตัวละครใหม่ตัวนี้ อย่างไรก็ตามรอ Hoyoverse ประกาศอย่างเป็นทางการอีกที

ซึ่งในวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2023 นี้ เวลา 19.00 น. ทาง Hoyoverse มีงานไลฟ์สตรีมของเกม Genshin Impact ด้วย บางทีอาจจะมีข้อมูลอะไรใหม่ ๆ แต่คาดว่าน่าจะเป็นข้อมูลของ Momoka และ 3.6 ก่อนมากกว่า

แนะนำข่าวเกมส์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : Magical Girl Destroyers Kai เริ่มให้ลงทะเบียนล่วงหน้า

เตือน! การเงินโลกเผชิญภาวะเสี่ยงซ้ำรอยสหรัฐฯ ชี้สถานการณ์คล้ายปี 40

เตือน! การเงินโลกเผชิญภาวะเสี่ยงซ้ำรอยสหรัฐฯ ชี้สถานการณ์คล้ายปี 40

เศรษฐศาสตร์

“ธีระชัย” ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง สถาบันการเงินมีความเสี่ยง ผลกระทบของตลาดเงินตลาดทุนในสหรัฐฯ และยุโรปอาจลามถึงเอเชีย ธนาคารในไทยต้องระมัดระวังการปล่อยกู้ ขณะที่ “รศ.ดร.ณรงค์” ระบุการเงินของโลกตอนนี้เหมือนคนเป็นโรคมะเร็ง ระยะที่ 1-ระยะที่ 2 สถาบันการเงินในจีนและอินเดียกำลังเดินตามรอยสหรัฐฯ และอาจเกิดขึ้นกับทั่วโลก แนะแบงก์ชาติจับตาการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ส่วนประชาชนควรลดความเสี่ยงด้วยการกระจายเงินฝากแบงก์ละไม่เกิน 1 ล้านบาท

เป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์การเงินโลกในขณะนี้ หลังจากที่มีข้อมูลว่าขณะนี้ธนาคารในสหรัฐฯ อีก 186 แห่ง กำลังเสี่ยงที่จะล้มละลาย และถูกสั่งปิดกิจการเหมือน Silicon Valley Bank ขณะเดียวกัน มีธนาคารจำนวนมากที่ลูกค้าพากันมาถอนเงินฝากที่ไม่มีหลักประกัน ส่งผลให้หลายฝ่ายเริ่มวิตกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะลุกลามไปประเทศอื่นด้วยหรือไม่?

ซึ่งคงต้องฟังมุมมองความเห็นจากบรรดานักวิชาการด้านการเงินการคลัง

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ มองว่า กรณีธนาคาร 186 แห่งในสหรัฐอเมริกาเสี่ยงที่จะล้มละลายนั้นเป็นข้อศึกษาเชิงวิชาการ จะเห็นได้ว่าแบงก์ขนาดเล็กในสหรัฐฯ เป็นสถาบันการเงินหลักในการปล่อยกู้ให้ธุรกิจอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจหลักของสหรัฐฯ จึงมีความเสี่ยงต่อลูกหนี้ NPL สูง ขณะที่กรณีของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley Bank) นั้นสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างอายุของทรัพย์สินกับหนี้สินที่ไม่สอดคล้องกันจึงเกิดปัญหาขาดทุนขึ้นได้ ซึ่งทางการสหรัฐฯ กำลังดูแลวิธีบริหารความเสี่ยงของธนาคารขนาดเล็กอยู่

และเดิม “ธนาคารเครดิต สวิส” ธนาคารใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ก็มีปัญหาด้วย ซึ่งหากเครดิต สวิสไม่รีบแก้ปัญหาให้ลุล่วงภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบถึงสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ด้วย เนื่องจากธนาคารเครดิต สวิส เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่มากและมีการทำธุรกิจที่เกี่ยวพันกับธนาคารต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้น หากธนาคารเครดิต สวิส ล้มละลายจะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ทั้งในยุโรป สหรัฐฯ รวมถึงเอเชียด้วย

แต่เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้นำธนาคารที่ใหญ่กว่าเข้ามาแก้ปัญหาธนาคารเครดิต สวิสเรียบร้อย ทำให้สถานการณ์ของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ผ่อนคลายลง จากเดิมที่มีความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งผลกระทบดังกล่าวอาจส่งผลกระทบไปประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งหากภายในสัปดาห์นี้สหรัฐฯ สามารถทำให้สถานการณ์ของสถาบันการเงินในประเทศนิ่งได้ ความกังวลที่ปัญหาเสถียรภาพของสถาบันการเงินจะลุกลามไปประเทศอื่นก็จะหายไป การที่ธนาคารขนาดเล็ก 168 แห่งในสหรัฐฯ เสี่ยงล้มละลายนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินของไทยเนื่องจากธนาคารในไทยไม่ได้ทำธุรกรรมอะไรกับธนาคารดังกล่าว ดังนั้น อย่าเพิ่งตื่นตระหนก แค่เฝ้าระวังผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมเท่านั้น

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์ของสถาบันการเงินสหรัฐฯ จะคลี่คลายลงแต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะเชื่อว่าสภาวะเศรษฐกิจของโลกในแง่ของตลาดเงินตลาดทุนยังมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร เพราะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว พอเศรษฐกิจชะลอระบบการเงินของโลกจะตึงเครียดขึ้น ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ธนาคารจะลดลงเนื่องจากรายได้ที่ลดลงและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้ของหนี้ครัวเรือนลดลงด้วย ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงของสถาบันการเงิน เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลในประเทศยุโรปพยายามจะสู้กับเงินเฟ้อโดยใช้วิธีขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดกำลังซื้อ แต่พอขึ้นดอกเบี้ยไปมากๆ ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า ซึ่งจะมีความเสี่ยงทั้งหนี้ NPL และราคาหลักทรัพย์ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อเนื่องในอนาคต

“ส่วนธนาคารของไทยนั้นต้องคอยจับตาผลกระทบที่อาจจะเกิดกับตลาดเงินตลาดทุนในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งอาจลามมาถึงราคาสินทรัพย์ในตลาดเงินตลาดทุนของเอเชีย อีกทั้งต้องจับตาดูเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะชะลอตัวลง ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งจะกระทบการส่งออกของไทยไปด้วย ตรงนี้คือจุดที่ธนาคารไทยต้องระมัดระวัง ในส่วนของการปล่อยกู้จะต้องดูทิศทางรายได้ของลูกหนี้ที่มาขอกู้เพิ่มเติมว่ารายได้ของบริษัทนั้นๆ มีความมั่นคงหรือไม่ โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวด้วย ในส่วนของธนาคารต้องหมั่นพูดคุย อัปเดตข้อมูลกับลูกหนี้ว่าในขณะที่เศรษฐกิจโลกผันผวนนั้นลูกหนี้ได้รับผลกระทบหรือไม่ มีข้อกังวลอะไรหรือเปล่า และถ้าหากความผันผวนดังกล่าวส่งผลต่อธุรกิจหรือการจ้างงานทางลูกหนี้จะมีแผนรับมืออย่างไร ธนาคารต้องใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น ขณะที่ประชาชนต้องดูว่าพรรคการเมืองต่างๆ มีแนวคิดที่จะป้องกันปัญหาดังกล่าวไว้อย่างไรบ้าง” นายธีระชัย กล่าว

รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ขณะที่ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ชี้ว่า สถานการณ์การเงินของโลกตอนนี้เหมือนกับคนที่เป็นโรคมะเร็ง คือมะเร็งระยะที่ 1-ระยะที่ 2 คือยังไม่มีอาการ จะเห็นอาการชัดเจนตอนเข้าระยะที่ 3-ระยะที่ 4 ดังนั้น หากดูในระยะสั้นๆ จึงยังไม่มีผลกระทบ หากพิจารณาจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกจะพบว่าอยู่ในช่วง “รื้อล้างสร้างใหม่” หรือ Creative Destruction (กระบวนการที่นวัตกรรมเกิดขึ้นทำให้เทคโนโลยีเดิมล้าสมัยและกระตุ้นให้ธุรกิจใหม่ๆ เติบโตขึ้นแข่งขันกับธุรกิจดั้งเดิม จึงสร้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ไปพร้อมๆ กับทำลายงานและกิจกรรมประเภทเดิมๆ ลง) เนื่องจากโลกกำลังเกิดอุตสาหกรรมดิจิทัลซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่เข้ามาแทนที่อุตสาหกรรมรูปแบบเดิม ทำให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ไอที และดิจิทัลต่างๆ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคารจึงปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มสตาร์ทอัปเหล่านี้ ขณะที่เหล่าทุนใหญ่นำเงินไปฝากแบงก์เพราะได้ผลตอบแทนดี

ยกตัวอย่างกรณีของ ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ ซึ่งเป็นแบงก์ที่ปล่อยกู้ให้แก่สตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีเป็นจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวกับดิจิทัลนั้นเมื่อพัฒนาและเติบโตไปถึงจุดหนึ่ง การพัฒนาเทคโนโลยีจะชะลอตัวลง ทำให้รายได้ที่เคยเติบโตอย่างต่อเนื่องชะลอลงด้วย จึงมีปัญหาในการชำระหนี้ ทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง ขณะที่ผู้ฝากเงินรายใหญ่ซึ่งตอนแรกมาฝากเงินกันเป็นจำนวนมากเพราะได้ผลตอบแทนดี เริ่มไม่มั่นใจในเสถียรภาพของธนาคารจึงแห่ถอนเงิน ทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง ธนาคารพยายามขายหุ้นเพิ่มทุน แต่เมื่อไม่สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้ธนาคารจึงมีปัญหาสภาพคล่อง

รศ.ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า การที่กิจการรูปแบบเก่าล้มไป และมีกิจการรูปแบบใหม่เกิดขึ้นแทนนั้นภาพลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงเมืองไทยด้วย สถานการณ์แบบธนาคารในสหรัฐฯ ไม่ได้มีที่เดียว ธนาคารในประเทศจีนและอินเดียก็มีปัญหาลักษณะนี้ และกำลังจะไปกระทบยุโรป โดยเฉพาะธนาคารในอินเดียตอนนี้กำลังง่อนแง่น บางแห่งดำเนินธุรกิจเหมือนธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ ซึ่งการดำเนินธุรกิจการเงินในลักษณะระดมเงินทุนจากคนรวยมาปล่อยกู้ให้ธุรกิจสตาร์ทอัป โดยสตาร์ทอัปเกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และเกิดคำถามว่าสตาร์ทอัปเหล่านี้โตเร็วเกินไปหรือเปล่า ตอนนี้สตาร์ทอัปส่วนหนึ่งโตเกินพอดี ซึ่งเสี่ยงที่จะแตกได้ ถ้าบริษัทเหล่านี้ล้ม ธนาคารที่ปล่อยกู้จะประสบปัญหาหนี้สูญ คนรวยซึ่งเป็นผู้ฝากรายใหญ่ของธนาคารเหล่านี้เมื่อเห็นท่าไม่ดีจะพากันถอนเงินออก แบงก์จึงมีปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งบางแบงก์จำนวนเงินฝากที่เข้ามากับจำนวนเงินที่ปล่อยกู้ออกไปนั้นใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นโอกาสที่ธนาคารในหลายประเทศจะล้มละลายเหมือนธนาคารในสหรัฐฯ ก็มีเช่นกัน

“การปล่อยกู้ให้สตาร์ทอัปของธนาคารทั่วโลกในตอนนี้นั้นคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี 2540 ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บูมมาก ธนาคารจึงพากันปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจเหล่านี้มากเกินไป แต่ธุรกิจอสังหาฯ เติบโตน้อยกว่าเงินที่ปล่อยกู้ ธนาคารจึงเก็บหนี้คืนไม่ทัน จึงมีปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งตอนปี 2539 ผมเตือนว่าธนาคารไทยระวังนะ เงินไหลออกจะมากกว่าเงินไหลเข้า แล้วจะเกิดฟองสบู่แตกเหมือนประเทศชิลี แต่แบงก์ชาติและนักเศรษฐศาสตร์บอกไม่เป็นไรหรอกเศรษฐกิจกำลังเติบโต หุ้นกำลังบูม ตอนนี้ธนาคารในยุโรปและอินเดียกำลังมีปัญหา แต่ปัญหายังอยู่ในขั้นที่ 1-2 คนจึงมองไม่เห็น ขณะที่สถานการณ์ของธนาคารในสหรัฐฯ นั้นไปถึงระดับ 3-4 แล้ว ธนาคารในอินเดียที่ปล่อยกู้ให้สตาร์ทอัปเริ่มง่อนแง่นแล้ว ดังนั้น สถานการณ์การเงินโลกในขณะนี้ไม่ปกติ เป็นเรื่องที่ไทยต้องเฝ้าระวัง” รศ.ดร.ณรงค์

สำหรับนโยบายการเงินที่ประเทศไทยควรดำเนินการในขณะนี้นั้น รศ.ดร.ณรงค์ ชี้ว่า แบงก์ชาติต้องตรวจสอบว่ามีธนาคารใดบ้างที่ปล่อยกู้ให้สตาร์ทอัป ทั้งธนาคารขนาดเล็กและธนาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสตาร์ทอัปที่เกี่ยวข้องกับไอทีและคริปโตฯ ซึ่งธนาคารบางแห่งปล่อยสินเชื่อให้สตาร์ทอัปเยอะ เพื่อที่หากสถาบันการเงินใดมีความเสี่ยงแบงก์ชาติจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทัน

คือในด้านเศรษฐศาสตร์การเงินนั้นเวลาจะดูความอ่อนไหวของมูลค่าจะดู 2 ตัว คือ มูลค่าแลกเปลี่ยนหรือราคาที่ขึ้นลง และมูลค่าใช้สอย ซึ่งหมายถึงประโยชน์ที่สิ่งนั้นๆ มีอยู่ ยกตัวอย่างทองคำ ซึ่งคนที่ซื้อทองคำไม่ได้ดูแค่มูลค่าแลกเปลี่ยนในตลาดเท่านั้น แต่ดูเรื่องมูลค่าใช้สอยด้วย เพราะทองคำถูกใช้ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเครื่องประดับ ต่างจากคริปโตฯ ซึ่งมีแค่มูลค่าแลกเปลี่ยน แต่ไม่มีมูลค่าใช้สอย ขณะที่หุ้นไอทีบางตัวมูลค่าแลกเปลี่ยนสูงเกินกว่ามูลค่าใช้สอย คือไอทีตัวนั้นอาจจะพัฒนา แต่การพัฒนาช้ากว่าราคาหุ้นที่ขึ้นไป ทรัพย์สินจะมั่นคงต่อเมื่อมูลค่าแลกเปลี่ยนสอดคล้องกับมูลค่าใช้สอย การปล่อยกู้ให้แก่ธุรกิจเหล่านี้จึงต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง แต่สถาบันการเงินของไทยอาจไม่ได้มองถึงประเด็นนี้

“ส่วนคนไทยที่เป็นผู้ฝากเงินควรจะกระจายเงินฝากไปอยู่ในธนาคารหลายๆ แห่ง เช่น ฝากเงินในแต่ละธนาคารไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะแบงก์ชาติรับประกันเงินฝากแค่ล้านเดียว ถ้าเกิดปัญหากับสถาบันการเงิน อย่างน้อยเงินเรายังได้รับความคุ้มครอง ซึ่งกระแสการกระจายเงินฝากในไทยเริ่มมีบ้างแล้ว” รศ.ดร.ณรงค์ กล่าว

 

ปรับเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุใหม่ เร็วขึ้นกรณีย้ายที่อยู่-เลื่อนขั้น

ปรับเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุใหม่ เร็วขึ้นกรณีย้ายที่อยู่-เลื่อนขั้น

การเงิน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. รับทราบแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สอดรับกับข้อห่วงใยของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

1. กรณีการย้ายภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุให้ได้รับสิทธิในเดือนถัดไปทันที เพื่อไม่ให้เสียสิทธิการรับเงิน และกรมการปกครองจัดทำระบบที่สามารถตรวจสอบการย้ายภูมิลำเนาของผู้สูงอายุได้ รวมทั้งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมบัญชีกลาง ตรวจสอบข้อมูลและคำนวณงบประมาณที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี เพื่อส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อย่างถูกต้อง

2. การปรับอัตราการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ให้ปรับอัตราการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ณ วันที่ผู้สูงอายุมีอายุครบในเดือนนั้นทันที ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุระหว่างปีงบประมาณ ทำให้ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 70 ปี, 80 ปี และ 90 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพในอัตราเดิมตลอดปีงบประมาณ จึงทำให้ผู้สูงอายุกลุ่มดังกล่าวเสียสิทธิ

ปัจจุบันการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นแบบขั้นไดตามช่วงอายุ ดังนี้

อายุ 60 – 69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท
อายุ 70 – 79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 700 บาท
อายุ 80 – 89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท
อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาท
3. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหลักเกณฑ์แนวทางการรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมทั้งปรับปรุงระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูลเบี้ยยังชีพ เพื่อให้สามารถคำนวณการใช้จ่ายงบประมาณในการปรับอัตราการจ่ายเงินได้

4. คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) เร่งรัดการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และนำเข้าที่ประชุม กผส. และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นนำมาพิจารณาเพื่อประกอบการแก้ไขระเบียบดังกล่าวด้วย

ข่าวการเงินแนะนำเพิ่มเติม : ธปท.ย้ำ ธุรกิจ ธุรกรรม Forex ในประเทศไทย ยังไม่เคยมีใครได้รับใบอนุญาต

เพื่อล่าแชมป์ปีหน้า “ลิเวอร์พูล” พร้อมยื่น 2.3 พันล้าน คว้า “แข้งตัวตึงเอเชีย”

เพื่อล่าแชมป์ปีหน้า “ลิเวอร์พูล” พร้อมยื่น 2.3 พันล้าน คว้า “แข้งตัวตึงเอเชีย”

ข่าวกีฬา

ลิเวอร์พูล พร้อมยื่น 60 ล้านปอนด์ คว้าแนวรับจอมดุ คิม มิน แจ จาก นาโปลี เสริมทัพ ลุ้นแชมป์ซีซั่น 2023-24

วันที่ 30 มีนาคม 2566 ความเคลื่อนไหว “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022-23 ตกเป็นข่าวสนใจคว้าตัว คิม มิน แจ ปราการหลังจอมดุของ นาโปลี ยอดทีมในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตามรายงานของ ไร สปอร์ต สื่อดังของ อิตาลี

คิม มิน แจ ในวัย 26 ปี ย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ให้ นาโปลี แทน คาลิดู คูลิบาลี ที่อำลาทีมไป แล้วสามารถโชว์ฟอร์มได้โดดเด่น เป็นกำลังหลังของสโมสร ฟาดแข้งไปทั้งสิ้น 35 นัด

นอกจาก “หงส์แดง” ที่สนใจในตัวของ มิน แจ ยังมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หวังคว้าตัวปราการหลังชาวเอเชียรายนี้ไปร่วมทีม มีรายงานว่า ลิเวอร์พูล พร้อมจ่ายเงินไม่น้อยกว่า 60 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวมาในซีซั่น 2023-24 สำหรับการเป็นคีย์แมน เพื่อล่าความสำเร็จต่อไป

อัพเดททุกข่าวสารของวงการกีฬา ข่าวฟุตบอลล่าสุด >>> “อินากี้ วิลเลียมส์” : แข้งผู้ลงเล่นต่อเนื่องที่สุดในประวัติศาสตร์ลาลีกา 251 นัด

บาค่าร่า อันดับหนึ่ง

บาค่าร่า อันดับหนึ่ง ช่องทางการทำงานที่ดีที่สุดของนักพนัน

บาค่าร่า อันดับหนึ่ง วันนี้เป็นช่องทางการทำงานที่ยอดเยี่ยมและเห็นผลลัพธ์ เป็นกำไรที่ดีที่สุดตอบโจทย์ความต้องการของนักพนัน เนื่องจากเว็บบาคาร่าอันดับ 1 มาพร้อมกับการเงินมั่นคงและเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานสากล การันตีเรื่องความเสถียรเมื่อเข้ามาเดิมพันหรือฝากถอนเงินผ่านระบบออโต้ ฉะนั้นหากวันนี้คุณอยากจะเล่นบาคาร่าให้ได้กำไร เราขอแนะนำให้เปิดประสบการณ์กับเว็บอันดับ 1 ซึ่งเป็นเว็บตรง ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือคนที่เล่นเกมบาคาร่ามานาน คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดอย่างแน่นอนมาลองสัมผัสประสบการณ์นี้กันได้เลย กับช่องทางการเดิมพันที่บาคาร่าอันดับ 1

บาค่าร่า อันดับหนึ่ง

บาค่าร่า อันดับหนึ่ง การันตีผลตอบแทนที่ดีที่สุดโอนไว้จ่ายจริง

บาค่าร่า อันดับหนึ่ง วันนี้คุณสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านการเล่นด้วยมือถือทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น android หรือ iOS ซึ่งคุณสามารถเดิมพันด้วยเงินขั้นต่ำได้ เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด พร้อมการันตีผลตอบแทนที่ดีที่สุดและให้บริการโอนเงินไวน์ผ่านระบบอัตโนมัติด้วย true money wallet แจ้งความสะดวกสบายให้กับผู้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม มือใหม่ สามารถใช้งานได้ง่ายด้วยระบบที่ไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังสะดวกสบาย คุณสามารถเข้ามาทำเงินได้ทุกที่ทุกเวลา 

เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด

จัดเต็มเงินรางวัลและโบนัสพิเศษ สร้างโอกาสทางการเงิน

วันนี้เล่น บาค่าร่า อันดับหนึ่ง ได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ไม่ต้องดาวน์โหลด application สำหรับใครที่อยากเล่นเกมบาคาร่าหรือเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมนี้เลือกเล่นกับ เว็บตรงบาคาร่า ได้เลยเพราะการเงินที่มั่นคง จะช่วย support และสร้างความสบายใจให้กับนักพนันได้เป็นอย่างดี เมื่อเข้ามาเดิมพันจะมีแต่ได้กำไร และไม่มีเงินรั่วไหล วันนี้อยากเล่นบาคาร่าอันดับ 1อย่ารอช้า มาเปิดประสบการณ์เพียงสมัครเปิด user ผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นจุดเริ่มต้นให้คนชอบเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์ เข้ามาสร้างรายได้โดยไม่ต้องใช้เงิน เงินหลักสิบก็เข้ามาทำกำไรกันได้

เกมบาคาร่าออนไลน์ นับเป็นรูปแบบการทำเงินที่ได้รับความนิยมมายาวนานตั้งแต่การเล่นในวังคาสิโนต่างประเทศจนมาในรูปแบบของเว็บบาคาร่าออนไลน์ ufabet บาคาร่า วันนี้ใครอยากเล่นได้เงินดีลองมาเล่นกันได้เลยที่บาคาร่าอันดับ 1 การันตีว่าได้เงินจริงด้วยระบบการให้บริการแบบเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ไม่ว่าจะเดิมพันด้วยเงินเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับกำไรกลับไปทุกวัน ที่สำคัญมีความปลอดภัยไร้กลโกงด้วยระบบให้บริการฝากถอนไม่มีขั้นต่ำผ่าน true money wallet

แหล่งที่มา :  hydeparklabel.com